March 11, 2019

มีคนบอกว่าสภาพแวดล้อมในการทำงานจะช่วยให้เราทำงานได้ดีขึ้น ซึ่งคำว่าสภาพแวดล้อมนี้มีอะไรบ้าง สิ่งที่เราเห็น เสียงที่เราได้ยิน อุณหภูมิที่เราสัมผัส นึกภาพเราเปิดแอร์นั่งเก้าอี้นุ่ม ๆ ฟังเพลงเบา ๆ ทำงานอยู่ที่บ้านจะสบายแค่ไหน แต่อีกสิ่งหนึ่งที่ห้ามมองข้ามก็คือกลิ่น

เราเป็นคนที่เข้าสู่วงการเครื่องหอมมานานพอสมควร และได้ลองใช้ก้านไม้หอมของ Muji มาระยะหนึ่งพบว่าพอกลับบ้านมาเหนื่อย ๆ เปิดแอร์แล้วก็จะได้กลิ่นที่เราอยากได้ ทำให้นอนหลับสบายขึ้นจริง ๆ ก่อนที่จะรู้สึกว่าได้เวลาแล้วเรามาซื้อเครื่องทำควันเลยดีกว่า และในที่สุดก็ตัดสินใจซื้อ Muji Aroma ขนาดกลางมา ในราคา 1,900 บาท ซึ่งแพงมากเลยทีเดียวเมื่อเทียบกับยี่ห้ออื่น แต่ทำไงได้คนมันติดแบรนด์ Muji

สิ่งที่ทีมาให้ในกล่องก็คือ

  • ตัวเครื่องทำควัน
  • สายไฟสำหรับต่อกับไฟ
  • ที่ตวงน้ำสำหรับใส่ ที่สุดท้ายก็ไม่ได้ใช้เพราะเอาน้ำขวดมาเทใส่ ขี้เกียจเดินไปห้องน้ำ

ย้ำว่าในกล่องไม่มีน้ำยามาให้นะจ้ะต้องซื้อแยกเอง ซึ่งตรงนี้หลายคนก็บอกว่าสามารถซื้อยี่ห้ออื่นมาเติมได้อย่างไม่มีปัญหา ใครที่จะซื้อ Muji ก็ได้เหมือนกัน

สำหรับน้ำยาที่ใช้นั้นเป็นน้ำมันที่เรียกว่า Essential Oil หรือน้ำมันสะกัดเข้มข้น อันนี้จะมีความเจือจางน้องกว่าที่เป็นแบบก้านไม้หอม ไม่สามารถเอามาใช้แทนกันได้เวลาซื้อต้องดูดี ๆ ซึ่งถ้าไปตรงโซนเครื่องหอมของมูจิก็จะมีหลากหลายกลิ่นหลากหลายราคาให้ลองเลือก สามารถหยิบขึ้นมาดมเทสได้

ราคาก็จะเรียกได้ว่าค่อนข้างสูง หลักร้อยจนถึงหลักพัน ถ้าเป็นกลิ่นเบสิก ๆ ก็จะมีราคาถูก แต่ถ้าเป็นกลิ่นที่ทำยาก ๆ หรือหอมมากแล้วละก็ราคาก็ขวดละเป็นพันเลยทีเดียว (สำหรับขวดนึงจากที่ลองใช้จะใช้ได้ประมาณ 3-4 อาทิตย์ สำหรับขวดเล็ก ถ้าเปิดบ่อย ๆ อย่างของเราปิดทุกคืนต่อเนื่องกันนาน ๆ ก็ใช้ขวดเล็กหมดใน 3 อาทิตย์)

กลิ่นที่เลือกมาลองใช้ในครั้งนี้มี 2 กลิ่นได้แก่

  • Eucalyptus ขนาด 10 มิลลิลิตร ราคา 395 บาท
  • Morning (เป็นกลิ่นส้ม ๆ) ขนาด 30 มิลลิลิตร ราคา 1,350 บาท

จะเห็นว่าราคาโหดใช้ได้ แต่แบบขวดใหญ่ ก็ใช้ได้ประมาณ 1-2 เดือน เพราะเวลาหยดหยดแค่นิดเดียวพอก็หอมแล้วไม่ต้องหยดแบบบ้าคลั่ง

สำหรับวิธีการใช้ก็คือให้เทน้ำลงในที่ตวงที่ให้มา หรือว่าจะเทลงไปที่เครื่องเลยก็ได้ไม่ว่ากัน จากนั้นหยดน้ำมันลงไปประมาณ 1-2 หยด ถ้าอยากให้หอมหน่อยก็ซัก 3 หยด ไม่ต้องไปหยดเยอะ เปลือง แพง

จากนั้นจะมีปุ่มด้านหลังของเครื่อง 2 ปุ่ม

  • ปุ่มสำหรับเปิดปิดการทำงาน โดยตั้งเวลา 30 นาที 60 นาที 120 นาที และ 180 นาที ซึ่งน้ำจะหมดพอดีที่ 180 นาที แล้วจากนั้นเครื่องจะดับอัตโนมัติ เพื่อให้เราเติมน้ำและเปิดใช้ต่อ
  • อีกปุ่มนึงจะเป็นไฟเปิดปิดได้ 2 ระดับคือจะให้สว่างมากหรือสว่างน้อย ดีตรงที่ไฟนี้จะแยกต่างหากจากการทำงานของเครื่อง ดังนั้นใครไม่ชอบให้มีแสงหรืออยากให้ห้องมืดตอนนอนก็ปิดไฟแยกต่างหากได้

หลังจากนั้นก็เปิดแล้วก็สูดกลิ่นอันหอมสดชื่นกันให้เต็มปอด สำหรับห้องที่เราวางไว้เป็นห้องนอนขนาดประมาณ 20 ตารางเมตร ไม่ได้ใหญ่มาก ทำให้ได้กลิ่นหอมเต็มห้อง โดยเฉพาะบริเวณโต๊ะทำงานซึ่งเป็นจุดที่เรานั่งทำงานเป็นประจำ

จริง ๆ มีเรื่องน่าห่วงนิดนึงเพราะว่าปกติอุปกรณ์พวกนี้จะสร้างความชุ่มชื้นให้กับอากาศการเอามาวางไว้บนโต๊ะทำงานซึ่งเต็มไปด้วยอุปกรณ์ต่าง ๆ iPhone, Google Home และ Wifi Router แต่ตรงนี้ก็แก้ปัญหาด้วยกันหันควันไปในทางที่ไม่โดนอุปกรณ์พวกนี้โดยตรง

หลังจากที่ลองใช้มาประมาณ 1 เดือนก็พบว่าตอนนี้กลายเป็นคนที่ติดกลิ่นหอมไปแล้ว จริง ๆ มีเรื่องน่าสนใจอย่างนึงก็คือ คนเราสามารถบันทึกความทรงจำไว้กับกลิ่นได้ เวลาที่เราเอากลิ่นเดิมที่เคยใช้มาดมเราจะสัมผัสได้ถึงความรู้สึกหรืออารมณ์ ณ ตอนนั้น

สรุปประเด็นที่น่าสนใจของ Muji Aroma

  • ทำให้ห้องหอมสดชื่นมาก ยิ่งถ้าใครชอบกลิ่นไหนเป็นพิเศษแล้่วจะยิ่งมีความสุข
  • คำแนะนำในการซื้อคือให้ลองดมทุกกลิ่นที่มีในร้่านแล้วเลือกกลิ่นโปรด
  • พยายามหากลิ่นที่ช่วยบันทึกเรื่องราวความทรงจำ ณ ตอนนั้น จะทำให้เราสนุกมากขึ้น เช่นเราหยิบกลิ่นเดิมเมื่อกลางปีที่แล้วมาดม (หมดแล้วแต่ยังมีกลิ่นติดอยู่) เราจะนึกถึงคนที่เราเคยคุยด้วย หรือเรื่องราวที่เราเคยเจอ ณ ตอนนั้นชัดเจนมาก
  • เหมาะสำหรับซื้อใช้เองและซื้อเป็นของขวัญ
  • ข้อเสียอย่างเดียวคือแพงและขี้เกียจเติมน้ำ

นับว่าเป็นอีกหนึ่งสินค้าที่เหมือนจะฟุ่มเฟือยแต่มันก็ไม่ฟุ่มเฟือยเนื่องจากในเมื่อเราดูแลตัวเองด้วย แสงที่เหมาะสม เปิดแอร์ให้เย็นสบาย หาเก้าอี้ที่นั่งแล้วสบาย การลงทุนกับกลิ่นที่อาจจะเป็นสิ่งที่เรามองไม่เห็นแต่่สำคัญ เพราะปฏิเสธไม่ได้ว่าเราต้องหายใจ ก็เป็นหนึ่งในอีกการลงทุนที่น่าลอง