September 21, 2020

รีวิวนี้ผมจะพาไปชมโรงแรมที่บอกได้ว่าครั้งนี้ตั้งใจไปเพื่อพักผ่อนจริง ๆ ใครที่ติดตามกันมานานก็จะทราบกันดีว่าผมเป็นมนุษย์บ้างาน การจะเดินทางไปที่ไหนถ้าไม่ไปเพราะทำงานก็คือไปเพราะทำงานอยู่ดี (ฮา) แต่ในครั้งนี้ เป็นการเดินทางไปต่างจังหวัดที่แตกต่างจากครั้งอื่นคือใครครั้งนี้ผมกับใบพลู เราจะเดินทางไปที่จังหวัดภูเก็ตกัน โดยที่โจทย์เดียวของพวกเราคือเที่ยว กิน และนอน

ดังนั้นเมื่อปราศจากข้อจำกัดด้านสถานที่ว่าต้องใกล้ที่ทำงาน เราจึงเปิดแผนที่ทั้งภูเก็ตเพื่อดูโรงแรมกัน ผมนั้นเป็นสมาชิกของโรงแรมในเครือ Accor ทำให้ปกติเวลาพักก็จะต้องเลือกพักในเครือ Accor ได้แก่ Ibis, Novotel, Mercure, MGallery, Movenpick, Banyantree ไม่หลุดไปจากนี้

โจทย์ของเราก็คือ ต้องการโรงแรมที่อยู่ไม่ห่างจากตัวเมืองมาก (เพราะตอนแรกเราไม่มีรถ แต่สุดท้ายก็ยอมแพ้เช่ารถอยู่ดี) และอยู่ติดทะเล (แน่นอนไปภูเก็ตก็ต้องอยากเห็นทะเล) และที่สำคัญก็คือต้องมี Facilities ต่าง ๆ ครบถ้วน ตั้งแต่ร้านอาหาร สระว่ายน้ำ ไปจนถึงห้องต้องมีอ่างอาบน้ำ และที่สำคัญต้องสามารถเปิดรับลมทะเลได้ เพื่อการพักผ่อนที่สมบูรณ์

สุดท้ายตัวเลือกเหลือลงมาอยู่ที่ Pullman Phuket Panwa Beach Resort และ AVISTA Grande ที่อยู่ภายใต้แบรนด์ MGallery และก็กลายมาเป็นตัวเลือกสุดท้ายในที่สุดสำหรับ AVISTA Grande ด้วยเหตุผลว่ามีความสวยงาม มีสระว่ายน้ำขนาดใหญ่ และห้องพักกว้างขวาง (ใครที่เคยพักโรงแรมในแบรนด์ MGallery อย่าง Veranda ก็จะรู้ดีว่า MGallery จะให้ความสำคัญกับการตกแต่งมาก เหมาะสำหรับถ่ายภาพลงใน Instagram สุด ๆ )

เนื่องจากเราไปถึงกันตอนกลางคืน (บิน Flight เย็น) ทำให้ภาพในช่วงแรกจะเป็นภาพถ่ายกลางคืนก่อนนะครับ เมื่อเข้าไปถึงสิ่งแรกที่เจอก็คือโซนต้องรับของโถงโรงแรมที่ตกแต่งด้วยสไตล์ที่เหมือนจะเป็น ชิโน-โปรตุกีส ตามแบบภูเก็ต แต่มีการเล่นกับความ Luxury ด้วยการใส่สถาปัตยกรรมแบบ Art-Deco เข้ามาเล่นด้วย ทำให้กลายเป็นภาษาออกแบบที่เป็นเอกลักษณ์มาก ๆ แห่งหนึ่ง

รีวิว AVISTA Grande ห้องพักแบบ Deluxe Family Sea View

ห้องพักแบบที่เราจองมานั้นเป็นห้องแบบปกติต่ำสุด แต่เนื่องจากผมมีสิทธิ์ในการอัพเกรดห้องพักขึ้นมา 1 ระดับในการเข้าพัก ทำให้เมื่อมาถึงเราได้ทำการอัพเกรดห้องพักเป็น Deluxe Family Sea View ซึ่งต้องบอกก่อนว่าที่ AVISTA Grande เขามีห้องพักให้เลือกกันถึง 4 รูปแบบหลัก ๆ ได้แก่

  • ห้องพักแบบปกติทั่วไป หรือ Superior นอนสองคน / นอนได้ 4 คน (สำหรับครอบครัว) Superior Family มีตัวเลือกแบบมองเห็นทะเล
  • ห้องพักแบบ Deluxe นอน 2 คน / นอนได้ 4 คนอีกเช่นกัน หรือ Deluxe Family มีตัวเลือกแบบมองเห็นทะเล
  • ห้องพักที่มีสระว่ายน้ำเข้าถึงได้จากภายในห้องหรือ Deluxe Suite Pool access
  • ห้องพักแบบ Jacuzzi Suite

ซึ่งห้องที่เราได้รับอัพเกรดมานั้นเป็นแบบนอน 4 คน แต่เราไปกันสองคนเหตุผลเพราะว่าห้องแบบที่เราต้องการ Deluxe Suite Pool access นั้นเต็มซะงั้น ก็เลยได้ห้องใหญ่ เอาไปเลย 2 เตียง แต่ก็ยังเห็นวิวทะเล (Sea View) เช่นเดิม (แอบกระซิบว่าเรานอนกันทั้งหมด 3 คืน จ่ายไปแค่ประมาณ 2,500 บาท เท่านั้นนะครับ)

และนี่ก็คือบรรยากาศห้องพักของเราครับ โดยบรรยากาศในห้องพักนั้น ทุกห้องจะใช้ Design Langauge เดียวกัน ต่างกันแค่ฟังก์ชันเท่านั้น ให้ลองสังเกตการใช้ลายเส้นต่าง ๆ จะมีความเป็น Art-Deco สูงมาก สังเกตลายประตูไม้ที่อยู่ด้านหน้าห้องน้ำ จะให้ความรู้สึกคล้าย ๆ กับประตูลิฟท์โบราณ แต่ภายในห้อง รายละเอียด อื่น ๆ ก็ยังเจอความโค้งที่ให้ความรู้สึกเป็น ชิโน-โปรตุกีส สไตล์ภูเก็ตอยู่เล็กน้อย

ภายในห้องก็จะมีสิ่งอำนวยความสะดวกอยู่ให้พอสมควร มีปลั๊คไฟให้แทบจะทุกจุดในห้อง ไม่ต้องห่วงว่าจะชาร์จอุปกรณ์ต่าง ๆ ไม่พอ ทีวีที่ให้มาเป็น Smart TV ขนาดประมาณ 50 นิ้ว และสามารถหันปรับมุมองศาได้ โต๊ะทำงานเป็นโต๊ะแบบยาว มีรางปลั๊ค รวมถึงมีโซฟาอยู่ที่ปลายห้องติดกับระเบียง

สังเกตว่าอุปกรณ์ที่ใช้ตกแต่ง โต๊ะ เก้าอี้ และโหลต่าง ๆ จะอิงจากความเป็นชิโน-โปรตุกีส แต่ลดทอนรายละเอียดบางจุดลงไปให้ไม่ดูรกสายตาเกินไปสำหรับการอยู่ในห้องพัก

ตัวห้องน้ำของที่พัก นับว่าเด็ดมาก ๆ เพราะกว้างขวางใหญ่โต มีจุดเด่นที่สำคัญคือ สามารถเข้าได้ทั้งสองทาง คือจากทางบริเวณที่นอนก็ได้ หรือจากทางเข้าของห้องก็ได้ ซึ่งเป็นที่ตั้งของตู้เสื้อผ้า เราอาจจะเข้ามาทางนึง แล้วออกอีกทางนึงไปแต่งตัวก็ได้

ข้อดีของที่นี่คือ ทุกห้อง ทุกขนาด จะมีอ่างอาบน้ำให้ และอ่างอาบน้ำที่ให้มานั้นมีขนาดใหญ่พอสมควร ตัวผมเองสูงประมาณ 175 สามารถนอนได้แบบสบาย ๆ ไม่ต้องหดขา ในขณะที่อ่างล้างหน้าให้มาแบบ His and Her ซึ่งทำให้ไม่ต้องแย่งกันใช้งาน หรือมากับแฟน จะวางของใช้ส่วนตัว เครื่องแต่งหน้าต่าง ๆ ก็จะได้ไม่ต้องใช้พื้นที่ของกันและกัน

ภายในห้องมีการเตรียมผ้าขนหนูมาให้ถึงคนละ 2 ชุด สำหรับใช้งานในการอาบน้ำ และใช้งานกับสระว่ายน้ำ และยังให้ชุดคลุมที่จะใส่ระหว่างเดินไปสระว่ายน้ำ หรือใส่นอนก็ไม่ว่ากัน อีกคนละ 1 ชุดเลยทีเดียว

ในขณะที่อุปกรณ์ของใช้ส่วนตัวที่ทางโรงแรมเตรียมไว้ให้ก็ครบถ้วน และแน่นอนว่าโรงแรมในระดับนี้ลืมอะไรเราสามารถขอเพิ่มได้ อย่างของผมขอชุด Shaving Kits และชุดแปรงสีฟัน ไปตอนห้าทุ่ม ทางเจ้าหน้าที่ก็รีบนำขึ้นมาให้ที่ห้อง (รวมถึงใครนำสบู่มาตีฟองก็สามารถขอจากทีมของโรงแรมเพิ่มเติมได้)

ก็เรียกได้ว่าสิ่งอำนวยความสะดวกในห้องพักนั้น ไม่ต้องกังวลเลยทีเดียว ซึ่งก็อาจจะไม่แปลกใจมากนักสำหรับโรงแรมในระดับนี้ ที่ปกติก็จะบริการลูกค้าอย่างสุดความสามารถอยู่แล้ว (ไม่นับว่าเราสามารถสั่งน้ำแข็งขึ้นมาได้อีกด้วย หรือจะสั่งแก้วไวน์ แก้วเบียร์ แก้วแชมเปญอะไร ก็จัดเต็มกันเลยครับ ไม่ต้องห่วง)

ในห้องพักยามค่ำคืนมองลงไปก็จะเห็นพื้นที่ส่วนกลางของโรงแรม ก็สวยไปอีกแบบ

บรรยากาศของโรงแรม สระว่ายน้ำ และบริเวณพักผ่อน

ทีนี้ได้เวลาถ่ายบรรยากาศช่วงกลางวันของโรงแรมให้ดูบ้างครับ เช้าแล้ว ต้องบอกว่าพอตื่นเช้ามาสิ่งแรกที่ต้อนรับเราเลยก็คือแสงแดด และเสียงของทะเล เป็นการตื่นมาที่รู้สึกสดชื่นมาก และแน่นอนว่าพอมองออกไปก็คือวิวของหาดกะรน จังหวัดภูเก็ต ที่หาดนี้จุดน่าสนใจอยู่ตรงที่มีความร่มรื่นมาก มีต้มไม้เยอะ

พาเดินลงมาดูบริเวณต่าง ๆ ของโรงแรมซึ่งโดยปกติ โรงแรมสไตล์นี้ก็จะให้ความสำคัญกับบริเวณส่วนกลางมาก ๆ เพราะเป็นการพักผ่อนอย่างเต็มรูปแบบสำหรับแขกที่มาพัก เมื่อเดินลงมาเราก็จะเจอกับทางเดินสวย ๆ แบ่งสองโซดชัดเจน คือจะมีฝั่งที่เป็นสระน้ำตื้น ๆ ตรงนี้เราสามารถมานั่งแช่เท้า คุยกับเพื่อน อ่านหนังสือ ทำงาน หรือถ้าเป็นตอนกลางคืนก็จะมีให้สั่งมื้อค่ำมาทานได้

แต่ว่าโซนที่ไม่พูดถึงไม่ได้เลยก็คือ โคตรสระว่ายน้ำของ AVISTA Grande แห่งนี้ เพราะนับว่าเป็นจุดที่หลาย ๆ คนมาก็จะต้องมาถ่ายรูปกัน เพราะนอกจากจะเป็นสระว่ายน้ำที่กว้างใหญ่ไพศาลมาก ๆ แล้ว ยังมีโซนถ่ายรูปเท่ ๆ ที่เป็นโซนน้ำตก โซนบาร์ในสระว่ายน้ำ โซนที่เป็น Slope ขึ้นไปให้เราว่ายน้ำไป ชมวิวหาดกะรนไปได้ด้วย

สิ่งที่เรายังไม่ได้พูดถึงก็คือ ปกติแล้วทางโรงแรมก็จะมีเครื่องดื่ม Welcome Drink ให้ โดยใครที่ถือบัตร Accor Plus Member ในระดับ Silver ขึ้นไป ก็มีสิทธิ์ที่จะได้รับ Welcome Drink เพิ่มอีก สมมติไปสองคนก็จะได้บัตรสำหรับแลก Welcome Drink ทั้งหมด 4 ใบเลย โดย 2 ใบจะสามารถแลกเครื่องดื่ม Soft Drink และอีก 2 ใบสำหรับแลก Cocktail หรือใครไม่ดื่ม ก็สามารถให้ทำเป็น Mocktail ได้ จะแลกที่ห้องอาหารใดก็ได้ของโรงแรม หรือที่บาร์ในสระว่ายน้ำก็ได้เช่นกัน

ของเล่นของสระว่ายน้ำที่นี่ยังไม่หมด เพราะยังมีโซนที่เป็นโซนจากุซซี่ ที่เจาะไว้เป็นที่นั้งให้มานั่งคุยกับเพื่อน ๆ อาจจะเอาเบียร์มานั่งทานกัน คุยกันไปแช่จากุซซี่ไปก็สามารถทำได้ ตรงนี้จะมาสองคนเป็นคู่หรือมาหลาย ๆ คนกับเพื่อนผมมั่นใจว่าเราน่าจะได้รับประสบการณ์ที่ดีจากสระว่ายน้ำของ AVISTA Grande นี้ทุกคน

ร้านอาหารและเครื่องดื่ม

พอเล่นน้ำเสร็จแล้วก็ได้เวลาทานอาหาร ซึ่งทาง AVISTA Grande ก็มีห้องอาหารที่เป็น Fine Dining ประจำโรงแรมชื่อว่า PORTOSINO ซึ่งดูเหมือนจะขายอาหารสไตล์ฝรั่ง ๆ แต่จริง ๆ แล้วทางร้านสามารถทำอาหารได้หลากหลายสไตล์ตามที่เราต้องการ วันนี้เราทานมือกลางวันผมสั่งมาเป็น ผัดไทยกุ้ง ราคา 320 บาท (สมาชิก Accor ในระดับ Silver ขึ้นไป ได้ส่วนลด 50 % ทำให้เหลือเพียงแค่ 160 บาทเท่านั้น)

ทางโรงแรมก็ได้มีเมนูอยู่บนเว็บด้วย PORTOSINO ONLINE MENU

บรรยากาศจากห้องอาหารมองลงมาก็จะเห็นสระน้ำของโรงแรม จะสังเกตว่าการออกแบบของที่นี่จะใช้วิธีว่าไม่ว่ามองมาจากตรงไหน ก็จะเห็นสระน้ำของโรงแรมเป็นเอกลักษณ์เสมอ

ตอนค่ำห้องอาหารแห่งนี้ก็จะกลายเป็นบาร์ สามารถมานั่งสรรสรรค์กับเพื่อน หรือจะมานั่งทำงานเปลี่ยนบรรยากาศ ก็จะมีทีมบาร์เทนเดอร์คอยมาชงเครื่องดื่มให้ เราจะใช้จังหวะนี้รับ Welcome Drink ของโรงแรมเลยก็ได้ เครื่องดื่มที่ทางบาร์เทนเดอร์ทำให้ก็จะทำสด ๆ ให้เห็นตามสไตล์บาร์ปกติ แต่ก็จะมีความใส่ใจเป็นพิเศษ คอยถามว่าเราชอบเครื่องดื่มแบบไหน เปรี้ยว หวาน ขม หรือชอบเหล้าตัวไหนเป็นพิเศษ ก็สามารถแจ้งทางบาร์เทนเดอร์ได้เลย

สรุป Avista Grande Phuket Karon ชอบอะไรไม่ชอบอะไร

จริง ๆ แล้วนอกเหนือจากที่พาดู ทางโรงแรมยังมี Facilities อื่น ๆ อีก เช่น ฟิตเนส, ห้องเกม แต่เราไม่ได้พาไปดู แต่จากที่เข้าพักมาทั้งหมด 4 วัน 3 คืน กับ Avista Grande ก็ต้องบอกได้เลยว่าสถานที่แห่งนี้ออกแบบมาสำหรับพักผ่อนจริง ๆ เหมาะสำหรับใครที่ไม่ได้อยากได้อะไรมาก แต่ต้องการพื้นที่ เครื่องมือเครื่องใช้ และความเป็นส่วนตัว (และด้วยบรรยากาศของหาดกะรน ที่ไม่วุ่นวายมาก และเน้นความเป็นส่วนตัวอยู่แล้ว ทำให้ Avista Grande กลายเป็นที่พักที่ผมแนะนำให้ใครหลาย ๆ คนที่อยากจะ Escape จากความวุ่นวาย มาลองเปลี่ยนบรรยากาศพักที่นี่กัน)

โดยทั้งหมดผมสามารถสรุปเป็นข้อสังเกตของสิ่งที่ชอบและไม่ชอบของโรงแรมนี้ได้ดังนี้

  • ชอบสระว่ายน้ำ และกิจกรรมเกี่ยวกับน้ำ ของดีมาก มีอะไรให้เล่น สนุกสาน
  • ชอบความถ่ายรูปสวย เป็นการตกแต่งโรงแรมที่มี Story มีเรื่องราว และเพลินตาที่จะมองกวาดไปรอบ ๆ ว่าผู้ตกแต่งพยายามจะสื่ออะไร ซึ่งก็เป็นตามสไตล์ของโรงแรมในแบรนด์ MGallary อยู่แล้ว
  • ชอบความใส่ใจของทีมงาน ตามสไตล์แบรนด์โรงแรมระดับโลก บริการได้ยอดเยี่ยม
  • สิ่งที่ไม่ชอบก็มีเหมือนกัน คือตัวโรงแรมไม่ได้ตั้งอยู่ติดกับหาดขนาดนั้น แต่ต้องเดินผ่านซอยเล็ก ๆ แทน จริง ๆ ก็ไม่ใช่ว่าไม่ดี แต่ก็เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งข้อสังเกตสำหรับคนที่อยากได้ที่พักแบบมีหาดส่วนตัว หรือติดหาดแบบ ใส่ชุดว่ายน้ำเดินไปได้เลย ก็อาจจะต้องเก็บ Avista Grande ไว้เป็นตัวเลือกสำรอง
  • อีกสิ่งที่ไม่ถึงกับไม่ชอบ แต่ถ้าปรับปรุงได้ก็จะดีคือพื้นลื่นมาก เข้าใจว่าเป็นพูลวิลล่า แต่แขกทุกคน 100% มีการออกแบบ Flow การเดินจากโซนเช็คอินไปที่ห้องจะต้องผ่านบริเวณที่เปียกซึ่งอาจจะไม่ได้เหมาะสมสำหรับทุกคน เด็ก ๆ วิ่งอาจจะเกิดการลื่นได้ เป็นรายละเอียดเล็ก ๆ น้อย ๆ ต้องระวัง

อย่างก็ตาม ก็ต้องบอกว่า Avista Grande หาดกะรน ภูเก็ตนี้ นับว่าเป็นหนึ่งที่พักในใจ ที่ถ้ามีโอกาสได้แนะนำให้คนอื่น หรือให้กลับมาพักอีกรอบก็ไม่ปฏิเสธเลย (ใจใจก็อยากลองห้องพักแบบ Pool Acess ดูบ้าง ว่าจะฟินแค่ไหน) ไว้จะกลับมาอีกนะ

เว็บไซต์ของโรงแรม : avista-grande-phuket-karon.com