October 30, 2021

รีวิววันนี้ ผมขึ้นเครื่องบินแบบ A350-XWB ของการบินไทย บนเที่ยวบินเดินทางไปยังภูเก็ต ซึ่งปกติหลังจากสถานการ COVID-19 การบินไทย ได้ยกเลิกเที่ยวบินในประเทศทั้งหมดเรียบร้อยแล้ว ทำให้การบินในประเทศกลายเป็นตำนาน แต่สุดท้าย เราก็ได้มีโอกาสนังเครื่องบิน Wide-body อีกครั้งหนึ่งในประเทศ เมื่อการบินไทย เปิดเที่ยวบินที่แวะพักรับผู้โดยสารต่อที่ภูเก็ต และเปิดขายตั๋วเที่ยว กรุงเทพ – ภูเก็ต เป็น Demostic ด้วย

โดยเส้นทางที่การบินไทยเปิดมาก็ได้แก่

  • กรุงเทพ – ภูเก็ต – ลอนดอน
  • กรุงเทพ – ภูเก็ต – แฟรงเฟิร์ต

ซึ่งใครที่อยากลองเดินทางด้วยเครื่องลำใหญ่ของการบินไทยอีกครั้ง ก็สามารถจองได้ผ่านทางเว็บไซต์ของการบินไทย แต่จะไม่สามารถจองขากลับเป็น TG เลขสามตัวได้ ต้องกลับกับ Thai Smile แทน เพราะการเที่ยวบินระหว่างประเทศของการบินไทยของทั้งสองเส้นทางนี้ไม่มีลงที่ภูเก็ต จึงไม่สามารถนั่งจากภูเก็ตกลับกรุงเทพได้นั่นเอง

วันที่เดินทางคือวันที่ 28 ตุลาคม 2021 ซึ่งยังอยู่ในช่วงสถานการของ COVID-19 อยู่ ดังนั้นบนเที่ยวบินนี้จะไม่มีการเสิร์ฟอาหารแต่อย่างใด ผู้โดยสารที่เดินทางไปแฟรงเฟิร์ตก็รอไป ไม่มีอะไรให้กิน (ฮา) จนกว่าเครื่องบินจะขึ้นจากภูเก็ต เป็นสถานการที่ตลกดี

เริ่มต้นเช็คอินที่สนามบินสุวรรณภูมิ

เที่ยวบินที่เราเดินทางกันวันนี้เป็นเที่ยวบิน TG 922 เส้นทาง กรุงเทพ – ภูเก็ต – ลอนดอน ออกเดินทางจากสนามบินสุวรรณภูมิเวลา 19:55 ถึงสนามบินภูเก็ตเวลา 21:25 เรียกได้ว่าเป็นเที่ยวบินที่แอบดึกพอสมควร ดังนั้นการมาสนามบินก็จะต้องมาถึงซักประมาณหกโมง หกโมงครึ่งกำลังดี

เมื่อมาถึงแล้วก็มาเช็คอินกับช่องเช็คอินของการบินไทยแถว A ได้เลย หรือใครที่ซื้อ Codeshare ของ Thai Smile มาก็สามารถเลือกเช็คอินที่ไหนก็ได้ ใครอยากได้ลายกระดาษปริ้นการบินไทยก็สามารถมาเช็คอินกับการบินไทยได้

เมื่อเช็คอินเรียบร้อย ก็ผ่านกระบวนการรักษาความปลอดภัย เข้ามาในส่วนของในประเทศปกติ ซึ่งแม้ว่าเที่ยวบิน TG 922 จะเป็นเที่ยวบินแบบ International แต่เครื่องบินกลับจอดอยู่ที่ Gate A3 ซึ่งแอบงงเหมือนกันว่าแล้วผู้โดยสารฝั่ง International จะเดินทางมาอย่างไร (เข้าใจว่าเป็น Bus Gate)

โดยเครื่องบินวันนี้ที่ให้บริการเป็นเครื่อง Airbus A350 XWB เครื่องโปรดของใครหลาย ๆ คน ส่วนตัวผมเคยบิน A350 ของการบินไทยแต่เป็นเที่ยวบินในประเทศ (TG 102 กรุงเทพ-เชียงใหม่) ซึ่งเรียกว่าโชคดีมาก ๆ ที่รอบนี้ได้กลับมานั่ง A350 บนเส้นทางในประเทศอีกครั้งหนึ่ง

โดยลำที่เราจะเดินทางในวันนี้ก็คือเครื่องทะเบียน HS-THK ที่มีชื่อว่าไพศาลี นั่นเอง

เมื่อขึ้นมาบนเครื่อง เราก็จะเห็นเบาะลายการบินไทยชัดเจน ซึ่งเครื่อง A350 ของการบินไทย จะจัดเรียงที่นั่งแบบ 3-3-3 ซึ่งเบาะที่ใช้ก็จะเป็นเบาะลายใหม่ล่าสุดของการบินไทย บนเครื่องก็จะมีหมอนไว้ให้ (ซึ่งเป็นเอกลักษณ์ของเที่ยวบินในประเทศของการบินไทยเลยก็ว่าได้)

ในเที่ยวบิน เราก็จะยังสามารถขอหมอนเพิ่ม หรือผ้าห่ม (หรือแม้กระทั่งแปรงสีฟัน ถ้ามี) ได้ตามปกติ แม้ว่าจะเป็นแค่เที่ยวบินในประเทศ​ ซึ่งสิ่งนี้นี่แหละที่ทำให้เป็นสิ่งที่เราเสียดาย ว่าพอเหลือแต่ Thai Smile เราจะไม่ได้บริการเหล่านี้

เที่ยวบินที่เราบินกันในวันนี้เรียกว่าเกือบจะเต็มลำ เพราะมีทั้งผู้โดยสารที่เดินทางไปยังภูเก็ต และผู้โดยสารฝั่ง International ที่เดินทางไปยังแฟรงเฟิร์ต แต่ก็โชคดีที่ที่นั่งข้าง ๆ เราไม่มีผู้โดยสารคนอื่น ทำให้สามารถยกที่วางแขนขึ้นแล้วนั่งกันสองคนเป็นโซฟาได้เลย

ในส่วนของระบบ Inflight Entertainment นั้นสามารถใช้งานได้เช่นกันแม้จะเป็นเที่ยวบินในประเทศ และความพิเศษอีกอย่างหนึ่งของเครื่อง A350 ของการบินไทยก็คือ เราสามารถเปิดดูภาพจากกล้องที่ติดอยู่ด้านหลังของเครื่องบินได้ ทำให้เห็นภาพของเครื่องบินกำลังบินอยู่บนฟ้า แต่เนื่องจากเที่ยวที่เราบินกันเป็นเที่ยวกลางคืนเลยไม่มีอะไรให้ดูเท่าไหร่

หลังจากที่ Boarding เรียบร้อย เครื่องก็ Taxi ออกจาก Gate A3 ไปยัง Runway และบินขึ้นเพื่อเดินทางไปยังสนามบินนานาชาติภูเก็ตเป็นจุดหมายแรก โดยเวลาที่ใช้จะอยู่ที่ประมาณ 1 ชั่วโมง 30 นาที เป็นเวลาปกติที่ใช้ในการเดินทางไปยังภูเก็ต ซึ่งสำหรับเราอาจจะไม่ได้อะไร แต่สำหรับผู้โดยสารที่เดินทางไปยุโรป กระบวนการนี้จะเพิ่มเวลาเดินทาง 4-5 ชั่วโมงเลยทีเดียว เพราะกว่าจะต้องรอคน กว่าจะออก ก็กินเวลาไปมาก แถมยังต้องบินกลับขึ้นทางเหนืออีก

และเนื่องจากเที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินดึก ทำให้เมื่อเครื่องบินขึ้นแล้ว ไฟในห้องโดยสารจะยังคงถูกปิด เหลือแต่ไฟสร้างบรรยากาศสวย ๆ แทน ทำให้เที่ยวบินนี้เป็นเที่ยวบินที่ชวนง่วงนอนมาก แต่ก็ได้รู้สึกพักผ่อน และก็ต้องยอมรับว่า A350 นั้นเป็นเครื่องบินที่มีการจัดไฟในห้องโดยสารได้สวยงามมาก ๆ จริง ๆ

และเนื่องจากเที่ยวบินวันนี้ เป็น A350 ทำให้เราสามารถใช้งาน Thai Sky Connect หรือ WiFI บนเครื่องได้ด้วย (มีค่าใช้จ่ายตามปกติ) ซึ่งเอาจริง ๆ ก็ไม่คุ้มสำหรับเที่ยวภูเก็ตหรอก แค่บอกเอาไว้ว่ามันใช้ได้นะ

ในส่วนของห้องน้ำ ก็เป็นห้องนำสไตล์ A350 ไม่ได้ใหญ่อะไรมากมาย แต่เครื่องใช้ข้าวของก็มีการจัดเตรียมไว้ค่อนข้างครบ มีเจลล้างมือจัดเตรียมไว้ให้ มีแก้วสำหรับบ้วนปากและแปรงฟัน (สามารถขอแฟรงสีฟันได้ตามปกติ) สิ่งที่ไม่มีให้ก็คือพวกครีมและโลชั่น (ซึ่งไม่จำเป็นสำหรับการบินในประเทศ และไม่แน่ใจว่าจะมีการนำมาตั้งไว้ในเที่ยวระหว่างประเทศหรือเปล่า)

เที่ยวบินนี้จะค่อนข้างน่าเบื่อหน่อย ๆ เนื่องจากไม่มีอาหาร ไม่มีเครื่องดื่ม ไม่มีอะไรเลย นั่งกันยาว ๆ ชั่วโมงกว่าจนถึงสนามบินภูเก็ต เรียกได้ว่าใครหลับได้หลับไปเถอะ ไม่มีอะไรให้ทำ

และแล้วเครื่องบินก็เดินทางมาถึงสนามบินภูเก็ต ในเวลา 21:40 ซึ่งช้ากว่าที่กำหนดไว้ที่ 21:25 (เป็นเพราะว่าเราออกจากสุวรรณภูมิช้าด้วย) และเมื่อเครื่องถึงสนามบินภูเก็ต ผู้โดยสารที่มีปลายทางอยู่ที่ภูเก็ตจะถูกให้ลงจากเครื่องในขณะที่ผู้โดยสารที่จะเดินทางต่อไปยังแฟรงเฟิร์ตจะนั่งรออยู่บนเครื่อง เป็นเวลาชั่วโมงกว่า ๆ เลยทีเดียว

และเมื่อลงจากเครื่อง เราก็จะได้รับชุดขนมและเครื่องดื่มจากทางการบินไทย คล้าย ๆ กับสายการบิน Thai Smile เวลาเดินทางในประเทศช่วง COVID-19 โดยอาหารที่ได้รับแจกวันนี้เป็น น้ำดื่มการบินไทย และขนมพัฟ (ซึ่งก็เป็นเบสิกของสายการบินช่วงนี้ไปแล้วจนน่ารำคาญ)

หลังจากนั้นก็เดินเข้าสู่ส่วนผู้โดยสารขาเข้าในประเทศ เรียกรถเดินทางไปยังโรงแรมตามปกติ เป็นการสิ้นสุดการบินเที่ยวบิน กรุงเทพ ภูเก็ต โดยสารการบินการบินไทยในประเทศอีกครั้ง

สรุปว่าเที่ยวบินนี้ ความพิเศษของมันคือการบินไทยยังคงรักษามาตรฐานการบินในประเทศไว้ได้อย่างดี จะยกเว้นก็แต่เรื่องอาหารที่ไม่สามารถให้บริการได้ในช่วงนี้ โดยสรุปสิ่งที่ชอบและสิ่งที่เป็นข้อสังเกตก็คือ

  • เป็นตัวเลือกที่ดีสำหรับใครที่อยากเดินทางด้วยเครื่องบินลำใหญ่ เช่น A350 หรือ Boeing 787 ในประเทศอีกครั้ง หลังจากที่การบินไทยเลิกให้บริการบินในประเทศ ได้แก่ เชียงใหม่ ภูเก็ต และกระบี่อย่างเต็มรูปแบบ
  • เป็นตัวเลือกเที่ยวบินเที่ยวดึกที่ดี เพราะไฟในห้องโดยสาร ประกอบกับหมอน ผ้าห่ม สร้างบรรยากาศในห้องโดยสารให้น่านอนมาก ตื่นมาอีกทีก็ถึงภูเก็ตแล้ว
  • เป็นเที่ยวบินที่เราอาจจะไม่ได้พบไม่ได้เห็นบ่อยนัก และไม่แน่ใจว่าหากการเดินทางระหว่างประเทศกลับมาเป็นปกติเมื่อไหร่ การบินไทยอาจจะยกเลิกเที่ยวบินนี้ไปก็ได้

ในส่วนของความคุ้มค่า ต้องบอกก่อนว่าผมซื้อตั๋วเที่ยวบินนี้ในราคาปกติที่ทาง Thai Smile ขายอยู่แล้ว และไม่ได้ซื้อกับทาง Thai Airways โดยตรง (บินเป็น code share) ดังนั้น ก็เป็นตัวเลือกหนึ่งที่ไม่ต้องคิดอะไรมาก สมมติเห็นตารางเลือกเที่ยวบิน เรียงกัน มี A320 กับ A350 ถ้าเกิดไม่ติดเรื่องเวลา ทำไมเราถึงจะไม่อยากบิน A350 ล่ะ

เป็นอีกหนึ่งเรื่องราวสนุก ๆ ที่เกิดขึ้นในช่วง COVID-19 ที่อะไรที่ไม่ได้เห็นก็จะได้เห็น ก็คงทำอะไรไปไม่ได้มากกว่าการคาดหวังว่าการบินไทยจะกลับมาหายป่วยในเร็ววันนี้แล้วกัน