วันนี้ผมมีของแปลกมานำเสนอครับ ซึ่งอาจจะไม่ได้แปลกขนาดนั้น แต่เชื่อว่าหลายคน น่าจะเคยมีโอกาสได้นั่งเครื่องบินลำเล็กอย่าง A320 และ Boeing 737 กันมาเยอะ เนื่องจากสองรุ่นนี้ถูกนำมาให้บริการโดยสายการบินในประเทศอย่าง Thai Smile, Air Asia ที่ให้บริการด้วยเครื่อง A320 และ สายการบิน Nok Air ที่มีเครื่อง Boeing 737 ให้บริการการบินในประเทศ ทำให้สองรุ่นนี้น่าจะเป็นรุ่นที่พวกเราคุ้นเคยกันเป็นอย่างดี
ต้องบอกว่า นอกจากเครื่องบินที่มีระยะการบินไกล ๆ เช่นพวก Boeing 787, Airbus A350 แล้ว ตลาดการบินระยะสั้น ๆ ยังเป็นสิ่งที่ทางผู้ผลิตเครื่องบินให้ความสนใจไม่แพ้กัน โดยในปี 2016 ได้มีการเริ่มนำเอาเครื่อง Airbus A220 เครื่องบินรุ่นใหม่ของ Airbus ที่เข้ามาตีตลาดการบินระยะสั้น ๆ มาเริ่มใช้งานในสายการบินต่าง ๆ โดยสายการบินแรกที่เป็นลูกค้าของเครื่อง A220 นี้ก็คือ Swiss Air นั่นเอง ที่ได้รับมอบเครื่องบินนี้ครั้งแรกในปี 2016 ปัจจุบัน ทาง Swiss Air มีการนำเอา A220 มาให้บริการอยู่ทั้งหมด 30 ลำ จากทั้งหมดที่ผลิตมาส่งมอบให้กับสายการบินต่าง ๆ ทั้งสิ้น 240 ลำ (ข้อมูลปี 2022) ทำให้อาจจะพูดได้ว่า A220 นั้น เป็นของใหม่ ของแปลกที่ อาจจะหานั่งกันได้ในโซนยุโรปและอเมริกาบางสายการบินเท่านั้น
วันนี้ผมมีโอกาสได้บินด้วยเครื่อง Airbus A220 ในเที่ยวบินสั้น ๆ ในยุโรป จึงเก็บบรรยากาศมารีวิวให้ฟังกันครับ เที่ยวบินวันนี้เป็นการบินจากสนามบินซูริก ไปยังกรุงปารีส สนามบิน Charl De Gaulle ระยะเวลาที่ใช้เพียงแค่ 1 ชั่วโมง 30 นาทีเท่านั้น
สำหรับ Airbus A220 เป็นเครื่องบินที่มีลำตัวแคบกว่า A320 ทำให้มีรูปทรงที่เพรียวยาว โดยการจัดที่นั่ง จะจัดเป็นแบบ 2 และ 3 ที่นั่ง เท่านั้น ไม่เหมือนกับ A320 ที่จะจัดเป็น 3 3 แบบที่พวกเราคุ้นเคย ซึ่งนั่นก็ทำให้คนที่มากันเป็นคู่ ได้นั่งแบบ 2 คนทั้งแถว สบายดีครับ
เครื่องบินรุ่นนี้ ติดตั้งเบาะที่ค่อนข้างบาง ทำให้มีพื้นที่สำหรับยืดขาได้มากขึ้นเล็กน้อย โดยเบาะนั้นเรียกได้ว่าออกแบบมาได้ดีทีเดียว ไม่ได้มีกระเป๋าเก็บของด้านหน้า ทำให้ไม่เสียพื้นที่บริเวณเข่า แต่จะมีลักษณะเป็นช่องขนาดเล็กไว้ให้ใส่โทรศัพท์มือถือหรือของใช้เล็ก ๆ เช่นหูฟังแทน เป็นการออกแบบที่สะดวกน่ารักดี
ส่วนเบาะที่ใช้ก็จะมีลักษณะเป็นเบาะคล้าย ๆ เบาะหนังแบบนี้ ให้ความรู้สึกเรียบหรูดูดี ไม่รู้ว่าใช้ไปนาน ๆ จะเก่าหรือเปล่านะครับ แต่ลำที่นั่งวันนี้อายุก็ 3-4 ปีอยู่ ดู ๆ ก็ยังใหม่อยู่พอสมควร
สิ่งหนึ่งที่อยากให้สังเกตก็คือหน้าต่างครับ เพราะหน้าต่างของ A220 นั้นใหญ่โคตร ให้ความรู้สึกโปร่งนั่งสบาย ไม่อึดอัดเลย สามารถชมวิวนอกหน้าต่างได้อย่างเต็มที่ ภาพนี้ถ่ายระหว่างที่เครื่องกำลังบินขึ้นจากซูริก มีพื้นหลังเป็นทะเลสาบซูริก และเทือกเขาแอลป์ ในช่วงเช้า สวยงามมาก ๆ
เมื่อขึ้นบินเรียบร้อย แม้จะเป็นเที่ยวบินสั้น ๆ แต่อย่าลืมว่านี่เป็นเที่ยวบินแบบ Full Service ดังนั้น จะมีลูกเรือมาเดินแจกน้ำดื่มขวดเล็ก ๆ และช็อกโกแลตให้ผู้โดยสารทุกคนทุกคลาสครับ แต่จะไม่มีอาหารหรือเครื่องดื่มอื่น ๆ ให้บริการ จะต้องเป็นการซื้อเอา ซึ่งแน่นอนว่าการซื้อของบนเครื่องบินในโซนยุโรปนั้นเป็นสิ่งมหัศจรรย์ของโลกมาก ผมไม่เคยซื้ออาหารในสายการบินไทย เพราะไม่ได้พกเงินสด แต่สายการบินในยุโรปนั้น สามารถแตะบัตรเครดิตบนฟ้าได้เลยครับ
ไม่ใช่แค่แตะบัตรเครดิตด้วยนะ สิ่งมหัศจรรย์ของโลกนี้ก็คือการเอา iPhone มาแตะจ่ายด้วย Apple Pay บนท้องฟ้า ไม่มีสัญญาณอินเทอร์เน็ต ไม่มี WiFi แต่เราสามารถซื้อของได้ โคตร Amazing ซึ่งภายหลังเมื่อลงเครื่องไปแล้ว ก็จะมียอดเรียกเก็บเข้ามาในบัตรของเราเองอัตโนมัติ นี่มันอะไรกันครับเนี่ย
สำหรับอาหารที่มีขายก็จะมีตั้งแต่ขนมธรรมดาทั่วไป จนไปถึงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ ราคาก็จะประมาณนี้ครับ ถ่ายมาให้เป็นข้อมูล
ผมไม่ได้หิวมาก เลยไม่ได้สั่งอะไรใหญ่โต แต่อยากลองซื้อของบนเครื่องบินดู ก็เลยแจ้งลูกเรือว่าขอซื้อคุกกี้นิ่ม ยี่ห้อ Rhythm 108 ห่อสีม่วงนี้มา (ซึ่งมันอร่อยมากเลยนะครับ และมีขายในยุโรปเกลื่อนเลย อยากให้เข้าไทยมาก ๆ) ค่าเสียหายอยู่ที่ 4 CHF หรือประมาณ 150 บาทครับ แพงมาก
และเอกลักษณ์ของ Swiss Air ก็มาถึง ก่อนเครื่องจะ Land ที่ปลายทาง ลูกเรือจะเดินมาแจกช็อกโกแลตครับ มายุโรปรอบนี้ได้ไอ้นี่มา 4 ชิ้นถ้วน เดินตากแดดทั้งวัน ละลายไป 2 อดกินครับ
อีกหนึ่งสิ่งที่อยากชี้ให้ดูก็คือ หน้าจอด้านบน ตรงนี้เป็นหน้าจอที่โคตรเล็กครับ เล็กมาก ๆ เล็กจนไม่รู้ว่ามึงใส่มาทำไมแต่ก็มีประโยชน์ในการโชว์ข้อมูลการบินคร่าว ๆ และพวกแจ้งเตือนด้านความปลอดภัยต่าง ๆ ถ้าใครคุ้นกับ A320 ผมว่าทำเป็นจอใหญ่ ๆ พับได้แบบนั้นมาดีกว่าครับ
เดินทางได้แปบเดียว ก็ถึงปลายทาง พบเจอกับ Concorde มาต้อนรับสู่ปารีส ดินแดนแห่งการบิน เป็นการจบเที่ยวบินระหว่างประเทศสั้น ๆ ในยุโรป
สำหรับ A220 นั้น ส่วนตัวผมชอบนะ เป็นเครื่องบินที่มีขนาดเล็ก คล่องตัว และออกแบบมาใช้สอบพื้นที่ได้คุ้มค่ามาก ๆ เบาะที่บาง และเอาาสิ่งที่ไม่จำเป็นออกไป ทำให้มีพื้นที่การนั่งที่สบายขึ้น หน้าต่างที่ใหญ่ ทำให้เครื่องดูโปร่งสบาย และระบบการฟอกอากาศ ปรับความดันต่าง ๆ ที่ทำให้เครื่องลำนี้ไม่เหม็นอับและนั่งสบายพอ ๆ กับ A350 รุ่นพี่
ก็อยากให้สายการบินบ้านเราเอาเครื่อง A220 มาให้บริการในเร็ว ๆ วันนี้ น่าจะทำให้เที่ยวบินสั้น ๆ กรุงเทพ-เชียงใหม่ มีความสุขมากขึ้นครับ